5 วินัยการลงทุนที่เทรดเดอร์ควรยึดถือ

วินัยเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องยึดไว้ในชีวิตการลงทุนของเทรดเดอร์ เพราะเป็นสิ่งที่คอยกำกับเส้นทางการเทรดของเราให้ไปถึงเป้าหมายได้ ในบทความนี้เป็นการสรุป 5 วินัยการลงทุนที่สำคัญสำหรับเทรดเดอร์ทั้งมือใหม่และรุ่นเก๋า

1. ทำตามแผนการลงทุน ไม่เทเงินลงทุนจนหมดหน้าตัก
การจัดทำแผนการลงทุน คือ การจัดทำข้อมูลระบุจุดเข้า จุดออก และแผนบริหารเงินในการซื้อขายทุกครั้ง ผู้คนส่วนใหญ่ลงทุนโดยไม่มีแผนการลงทุน ทำให้บ่อยครั้งเกิดความโลภครอบงำและเกิดการเทเงินลงทุนหมดหน้าตักลงไป ซึ่งมักนำมาสู่ความเสี่ยงที่อาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้

ข้อแนะนำ คือ เริ่มวางแผนการลงทุน โดยแยกเงินสำหรับการลงทุนระยะยาวไว้อย่างน้อย 10% ของรายได้ในทุกเดือน สิ่งนี้เรียกว่า “การลงทุนถัวเฉลี่ยรายเดือน” หรือ Dollar Cost Average (DCA) ซึ่งช่วยให้เราสามารถกระจายต้นทุนได้ทั้งถูกและแพง ในช่วง DCA ที่ราคาแพงก็ช่วยจำกัดการซื้อมากเกินจำเป็น และในช่วง DCA ที่ราคาถูกก็จะทำให้ได้รับจำนวนหุ้น/จำนวนหน่วยเพิ่มขึ้น และเมื่อตลาดหุ้นฟื้นตัวจำนวนหุ้นเหล่านี้แหละที่ช่วยยกระดับผลตอบแทนได้

การลงทุนในระยะยาวควรมีกรอบเวลาอย่างน้อย 20 ปี ซึ่งกรอบระยะเวลานี้จะช่วยให้สามารถลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง โดยได้รับผลตอบแทนในระยะยาวได้

2. มองการเทรดประหนึ่งเป็นธุรกิจ
ในการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ เราต้องมองการเทรดของตนเองนั้นเหมือนการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์แบบเต็มเวลา (full-time trader) หรือ ไม่เต็มเวลา (part-time trader) ก็ตาม หากมองการเป็นเทรดเดอร์เป็นเพียงงานอดิเรก หรือ กิจกรรมยามว่าง ก็จะทำให้ขาดความมุ่งมั่นในการเรียนรู้อย่างแท้จริงไป ยิ่งสำหรับเทรดเดอร์แบบเต็มเวลาแล้วด้วย การหยุดเทรดนั้นหมายถึงการสูญเสียรายได้ไปอย่างสิ้นเชิง

การมองการเทรดเป็นการทำธุรกิจ แน่นอนว่าต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น ค่าธรรมเนียมการเทรด, การขาดทุน, ภาษี เป็นต้น ดังนั้น เทรดเดอร์จึงควรค้นคว้าข้อมูลและมีการวางกลยุทธ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพการเทรดให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

ข้อคำแนะนำ คือ จงคิดแบบระยะยาว อย่าซื้อขายเหมือนจะเกษียณในวันพรุ่งนี้ ควรมีการสร้างแรงจูงใจอยู่เสมอ มีแผนการลงทุนเฉกเช่นการทำธุรกิจ และสิ่งที่สำคัญคือการมีวินัยยึดมั่นในแผนการลงทุน

3. ไม่จำเป็นต้องเทรดทุกวัน
เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จหลายรายยอมรับว่า เขาไม่ได้ซื้อขายทุกวันแต่ซื้อขายตามแผน โอกาส และภาวะตลาดที่เหมาะสม ในบางช่วงเวลาที่เอื้อต่อการลงทุน ความผันผวนต่ำเกินไป หรือไม่เห็นโอกาสสร้างกำไรในสถานการณ์นั้นได้ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเปิดการซื้อขายขึ้น

เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มักรู้ว่าเมื่อใดควรเก็บมือนั่งรอ และเมื่อใดที่ควรรุกเข้าสู่ตลาด ขณะที่เทรดเดอร์มือใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดนั้นมักจะเปิดสถานะซื้อขายทุกวันอยู่เสมอ แม้ในช่วงที่เผชิญสถานการณ์ไม่เอื้อำนวย นำมาซึ่งความเสี่ยงขาดทุน

ข้อแนะนำ คือ เทรดเดอร์ควรมีความอดทน หากไม่พบจุดเข้าลงทุนที่ดี การอยู่นอกตลาดอาจช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุนได้

4. ยอมรับการขาดทุนและเรียนรู้จากมัน
การยอมรับความจริงว่าเราเกิดการขาดทุนจากการลงทุนเป็นเรื่องปกติ ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้เรามีบทเรียนและสามารถกำหนดจุดขาดทุนที่ยอมรับได้ นำมาสู่การพัฒนากลยุทธ์การเทรดที่ดีต่อไป สิ่งที่สำคัญ คือ การขาดทุนนั้นต้องไปทำให้เราเสียตัวตน หรือ ก่อให้เกิดอารมณ์ด้านลบในชีวิต

5. ยอมเสี่ยงถ้าคิดว่ารับได้
การลงทุนที่นำมาซึ่งผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น หลายครั้งวินัยอาจบังคับให้เราต้องขาด ณ จุดที่เรากำหนดไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องยึดวินัยอย่าวเดียว ในหลายครั้งเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ยอมเสี่ยงที่จะให้กำไรของพวกเขาดำเนินต่อไป โดยมองแล้วว่าความเสี่ยงนั้นคุ้มกับที่จะได้รับ

การกลัวการสูญเสียเงินมักจะทำให้เราหยุดสนใจสถานการณ์ตลาดในช่วงนั้น ซึ่งบางครั้งสภาวะตลาดยังเอื้ออำนวยให้สร้างผลตอบแทนต่อได้ การยึดติดกำกับไรปัจจุบันมากเกินไปอาจเป็นการปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นได้

คำเตือน : ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
Fundamental AnalysisTrend Analysis

면책사항