Elliott wave ไม่สนข่าว

ข่าวเดียวที่ขับเคลื่อนราคา คือข่าวของอารมณ์ความกังวลในสมองเราเอง

หากเราเปิด Sell จากจุดต่ำๆมา แล้วราคาวิ่งขึ้น ราคาที่วิ่งขึ้นก็คือข่าวร้ายของเรา พอร์ตที่ขึ้นสถานะขาดทุน คือข่าวร้ายที่สุดของเรา

และความกังวลในอนาคตที่ว่า เราอาจจะล้างพอร์ต หรือพอร์ตเสียหายเยอะ ก็คือข่าวร้ายของเรา

เราเข้าไปใน กลุ่มเทรด ถามเพื่อนๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น คนบอกเพราะแบบนั้น เพราะแบบนี้ ลดQE ปรับดอกเบี้ย ทำสงคราม และอื่นๆอีกมากมาย

เราได้เหตุผลในการสนับสนุนว่า เราจะกลายเป็นคนแพ้ในตลาดนี้ ในครั้งนี้ การออกจากการเทรดนี้ คือการทำสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าจะต้องขาดทุน

และก็ขายออกไปในราคา ต่ำ กว่าที่ซื้อมา แล้วใครซื้อต่อจากเรา ก็มีอยู่แค่สองพวก

1.คนที่จะถือสถานะขาดทุนต่อ หากราคาผิดทางต่อไปอีก

2.คนที่เข้าซื้อ และถือรอจนได้กำไร หากจังหวะนั้นเป็นจังหวะ ที่คนส่วนใหญ่ ก็ขายออกไปในราคา ที่เป็นข่าวร้ายที่สุดของพวกคนเหล่านั้นเอง


เราทุกคนล้วนเป็นเหยื่อของตลาด มีสิ่งเร้า กระตุ้นอยู่ตลอดเวลา ให้คุณขาย ที่ราคานั้น ซื้อที่ราคานี้ และซื้อๆ ขายๆ เวียนไปวนมา

เพื่อเชื่อมโยงให้ ทุกคนสร้างสมดุล แก่ตลาดเสรีแห่งนี้ วันนึงคุณอาจจะถูกปลุกด้วยความคิดกลางดึก ตื่นขึ้นมาดูกราฟ และเปิดสถานะที่คุณไม่ได้วางแผนจะเปิด เพื่อมอบเงินให้ตลาด

หรือวันนึงคุณอาจจะดึงเงินกำไรเป็นกอบเป็นกำกลับไป

ที่ตลกร้ายที่สุด ต่อให้คุณพยายามที่จะมีองค์ความรู้ขนาดไหน ก็ยังขาดทุน เพราะความรู้นั้นอาจสร้างความมั่นใจ Bias ทำให้คุณกลายเป็นเหยื่อ ในวันใดวันนึง

หรือไม่สร้างความมั่นใจอะไรเลย โยนหัวโยนก้อย และหวังว่าตลาดจะมอบเงินให้

แล้วจะทำอย่างไรต่อไป สำหรับสมรภูมิแสนโหดแบบนี้ แม้มันจะยาก แต่รู้ไว้อย่างนึงครับว่ามีคนรวยจากตลาดนี้ แลอยู่ได้นานพอและรวยมากๆ

ฉะนั้นเราจงเรียนรู้ที่จะอยู่ยาวและเติบโต อย่าหายออกจากตลาดไปก่อน



ส่วนวันนี้มองขึ้นครับ แต่ไม่เข้า buy นะครับ ส่วนตัวมองว่าอ่านยากครับหน้างานวันนี้ ฉะนั้น

สะสมไม้ Sell ไปตามแนวต้าน ถ้าถึงจุดตัดขาดทุน ก็ขาดทุนไป และจงมั่นใจว่า สุดท้าย การตัดขาดทุนนั้นจะ ไม่ใช่ข่าวร้ายของคุณครับ แต่เป็นแค่ 20% ของจำนวนครั้งที่คุณเทรดแล้วโดนจุดตัดขาดทุน

ยังมีโอกาสครั้งต่อไปเสมอ อีก 80% จำนวนครั้งทั้งหมด ที่จะทำให้คุณมีประสบการณ์มากขึ้น และดึงกำไรจากตลาดออกมาใช้อย่างง่ายดาย
Elliott Wave

면책사항